ผลิตภัณฑ์กล้วยแปรรูป กลุ่มแม่อารักษ์ ใช้พื้นที่หน้าบ้านที่ติดถนนใหญ่ เป็นเส้นทางหลักที่เชื่อมต่อระหว่าง หนองคาย-เมืองเลย การคมนาคมเร่ิมสะดวก การท่องเที่ยวเร่ิมครึกครื้น จึงใช้พื้นที่หน้าบ้านเป็นศูนย์จำหน่ายสินค้ากล้วยแปรรูปที่สมาชิกร่วมกันแปรรูปพร้อมจำหน่าย สะดวกต่อการจอดแวะซื้อเป็นของฝาก ทั้งผู้ที่กำลังเดินทางเข้าสู่เมืองหนองคาย มุ่งสู่กรุงเทพฯ หรือผู้ที่เดินทางจากหนองคาย มุ่งสู่ที่พักเรียบง่าย บรรยากาศโรแมนติก ที่อำเภอเชียงคาน
กลุ่มแปรรูปกล้วย กลุ่มแม่อารักษ์ มีแนวคิดอยากที่จะปรับปรุงพัฒนาให้เป็นแหล่งศึกษาดูงานและเป็นชุมชนเข้มแข็งต้นแบบให้กับชุมชนอื่นๆ เพราะเมื่อชุมชนมีการสร้างงาน ก็จำเป็นที่จะต้องใช้แรงงาน ทำให้เกิดการจ้างงาน ทำให้คนว่างงานมีงานทำ มีรายได้พอเพียงในถิ่นกำเนิดของตัวเอง และจะเป็นสถานที่ศึกษาดูงานของกลุ่มชุมชนต่างๆ ทั่วภูมิภาค จึงมีแนวคิดที่จะปรับปรุงและพัฒนาทั้งทางด้าน สถานที่จัดจำหน่ายสินค้า สถานที่ผลิต วัสดุอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ให้ทันสมัยและสวยงาม เพื่อเข้้าสู่มาตรฐานการผลิตทั้งสถานที่และผลิตภัณฑ์พร้อมจำหน่าย เหมาะสำหรับเป็นของฝากประจำท้องถิ่น อำเภอและจังหวัด
ซึ่งในปัจจุบันตลาดการแปรรูปผลิตภัณฑ์กล้วยมีมากขึ้นในแต่ละท้องถิ่น และหลากหลายรูปแบบในการแปรรูป ทำให้ตลาดผลิตภัณฑ์กล้วยแปรรูปมีการแข่งขันสูงขึ้น ทั้งทางด้านรูปแบบ ราคา และแพ็กเก็จ อีกทั้งช่องทางการจัดทำหน่ายก็มีส่วนสำคัญในการกระจายสินค้าออกสู่ตลาดภายนอก ผู้ผลิตจึงจำเป็นที่จะต้องสร้างและควบคุมการผลิตสินค้าให้มีความโดดเด่น ทั้งในด้านรสชาติ และการนำเสนอสู่ผู้บริโภค
กลุ่มผลิตภัณฑ์กล้วยแปรรูป กลุ่มแม่อารักษ์ ได้มีการผลิตและแปรรูปกล้วยให้มีหลากหลายตรงกลุ่มเป้าหมายในแต่ละวัย เช่น กลุ่มรักสุขภาพ ก็จะมองหารสชาติที่ไม่ต้องปรุงแต่ง ก็นำเสนอแบบรสชาติธรรมดา มีโรงเกลือนิดหน่อย กรอบ มัน ติดเกลือนิดหน่อย ส่วนในกลุ่มที่ชอบความหวาน ก็นำเสนอเป็นกล้วยไข่ฉาบหวาน หวานน้อย กรอบ หอมงาดำงาขาว และในกลุ่มที่เป็นวัยรุ่น ก็นำเสนอเป็นกล้วยทอดรสปาปรีก้า แบบสไตล์ฝรั่ง เป็นต้น
จากทุกกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ทำให้เราได้มองเห็นถึงการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์พร้อมจำหน่าย ซึ่งก็คือ Packet ที่ใช้บรรจุให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ที่แปรรูป ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับราคา และปริมาณสินค้าที่จำหน่าย ต้นทุนต่ำ การบรรจุไม่ซับซ้อนยุ่งยาก ง่ายต่อการบรรจุขึ้นจัดจำหน่าย อยู่ในกระแส ไม่เป็นพิษต่อส่ิงแวดล้อม
เรื่องการผลิตก็เป็นปัจจัยสำคัญต่อคุณภาพสินค้า เราต้องคุบคุมและดูแลวัตถุดิบให้ได้คุณภาพเสมอ เช่น กล้วยต้องมีผลที่แก่ จะทำให้รสชาติอร่อยเมื่อแปรรูปออกมาแล้ว และวัตถุดิบที่มาทำก็ต้องใหม่เสมอโดยเฉพาะน้ำมันที่ใช้ในการทอด ซึ่งจุดนี้ลูกค้าสัมผัสได้ด้วยรสชาติและกล่ิน
ในอนาคต เพื่อเป็นการตอบสนองกลุ่มผู้รักสุขภาพและสอดคล้องกับวัตถุดิบที่มากด้วยสาระประโยชน์ ทางกลุ่มต้องพัฒนาในเรื่องการลดปริมาณการใช้น้ำมันเป็นส่วนประกอบให้น้อยลง เปลี่ยนจากการทอดเป็นการอบกรอบแทนสามารถตอบสนองได้ทุกเพศทุกวัย ทุกกลุ่มเป้าหมายอย่างแน่นอน
การพัฒนาเศรษฐกิจให้เกิดความยั่งยืนจะต้องเกิดขึ้นที่ใจของผู้นำ ถ้าผู้นำไม่เข้มแข็งแน่วแน่มากพอ ที่ผ่านมาก็ถือว่าเป็นแค่ความคิด ซึ่งความคิดเหล่านั้นจะเป็นจริงได้ก็ต่อเมื่อได้ลงมือทำและทำต่อไปอย่าหยุด และทำต่อไปอย่างชาญฉลาด ไม่ต้องหวังความร่ำรวยมากมาย ขอแค่พออยู่ได้ไม่ขัดสน เราอยู่ได้ เพื่อนร่วมงานอยู่ได้ พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ต่อไปนี้เราจะต้อง "เปลี่ยน" โอทอปแบบเดิมๆ ให้เป็นที่ยกย่องว่านี่คือภูมิปัญญาชาวบ้านที่ไม่ต้องลงทุนสักบาท เพราะสิ่งที่มีค่าที่สุดคือภูมิปัญญา เราขายภูมิปัญญา ความศรัทธา ความยั่งยืน นี่คือ "เสน่ห์โอทอป" อย่างแท้จริง
หนองคาย เมืองชายแดนริมฝั่งแม่น้ำโขง เป็นประตูสู่เมืองเวียงจันทน์ เมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) โดยมีสะพานมิตรภาพไทย-ลาวเชื่อมระหว่างสองประเทศ
จังหวัดหนองคายอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 615 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 7,332 ตารางกิโลเมตร เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ติดแม่น้ำโขงมากที่สุดเป็นระยะทาง 320 กิโลเมตร เหมาะแก่การทำเกษตรกรรมและประมงน้ำจืด ทั้งยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ สามารถเดินทางข้ามไปเที่ยวยังฝั่งลาวได้โดยสะดวก มีวัดวาอารามและวัฒนธรรมวิถีชีวิตชาวบ้านที่น่าสนใจ โรงแรมที่พักที่สะดวกสบาย หลากหลายไปด้วยอาหารและสินค้าของฝาก ล้วนเป็นเสน่ห์ดึงดูดให้ผู้คนเดินทางมาเยือนเมืองริมโขงแห่งนี้
หนองคาย เมืองน่าอยู่อันดับ 7 ของโลก
นิตยสาร Modern Maturity ของสหรัฐอเมริกา จัดให้หนองคายเป็นเมืองน่าอยู่ลำดับที่ 7 ของโลก สำหรับคนวัยเกษียณชาวอเมริกัน จากการสำรวจ 40 เมืองทั่วโลก โดยอาศัยตัวชี้วัด 12 ตัว คือ ภูมิอากาศ ค่าครองชีพ วัฒนธรรม ที่อยู่อาศัย สาธารณูปโภค การคมนาคม บริการทางการแพทย์ สภาพแวดล้อม กิจกรรมนันทนาการ ความปลอดภัย ความมั่นคงทางการเมือง และการเข้าถึงเทคโนโลยี
ประวัติเมืองหนองคาย
ประวัติศาสตร์ของเมืองหนองคายเริ่มต้นเมื่อกว่า 200 ปีเศษ พื้นที่บริเวณริมฝั่งโขงนี้เดิมเคยเป็นที่ตั้งของเมืองเล็ก ๆ 4 เมือง คือ เมืองพรานพร้าว เมืองเวียงคุก เมืองปะโค เมืองไผ่ (บ้านบึงค่าย) ปัจจุบันยังพบซากโบราณสถานอยู่ตามวัดต่าง ๆ ริมแม่น้ำโขงบนเส้นทางท่าบ่อ-ศรีเชียงใหม่
ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่ หัวแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เจ้าอนุวงศ์ กษัตริย์ผู้ครองนครเวียงจันทน์ได้ตั้งตนเป็นกบฎ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงโปรดเกล้าให้เจ้าพระยาราชเทวี ยกทัพไปตีเมืองเวียงจันทน์ โดยมีท้าวสุวอธรรมา (บุญมา) เจ้าเมืองยโสธร และพระยาเชียงสา เป็นกำลังสำคัญในการช่วยทำศึกจนได้รับชัยชนะ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯให้ท้าวสุวอขึ้นเป็นเจ้า เมือง โดยจัดตั้งเมืองใหญ่ทางฝั่งขวาของแม่น้ำโขงคอยควบคุมพื้นที่และเลือกสร้าง เมืองที่บ้านไผ่ แล้วตั้งชื่อเมืองว่า หนองคาย ตามชื่อหนองน้ำใหญ่ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมือง
ภูมิอากาศ
เนื่องจากจังหวัดหนองคายมีภูมิประเทศติดกับแม่น้ำโขง ทำให้มีฝนตกชุกในฤดูฝนระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม ในฤดูหนาวราวเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์จะมีอากาศหนาวเย็นเนื่องจาก พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่สูง อุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 11 องศาเซลเซียส ส่วนในฤดูร้อนตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเมษายนอากาศจะร้อนจัด อุณหภูมิสูงสุดประมาณ 35 องศาเซลเซียส
ขอบคุณ : http://www.tripsthailand.com/th/thailand_Major_Destinations_nongkhai.php
ปรากฏการบั้งไฟพญานาค
ร้านของฝาก "แม่อารักษ์" เลขที่ 98/1 บ้านสังคม ต.สังคม อ.สังคม จ.หนองคาย 43160 โทร. 042-441-567 มือถือ 084-715-5656 Facebook : https://www.facebook.com/Maearak